เข้าใจผิดมาตลอด!! เผย “วิธีทำความสะอาดหู” ที่ถูกต้อง ชี้การใช้สำลีก้านเป็นสิ่งที่ผิด…!!

 เผยความจริงแล้วการใช้สำลีก้านมาปั่นหู ยิ่งลึกเท่าไหร่ยิ่งกลายเป็นผลเสียต่อ "หู" ของเรานะ




วิธีทำความสะอาดหู จงเข้าใจซะใหม่ การใช้สำลีก้านเป็นการกระทำที่ผิด!!

เพราะความจริงแล้ว การดันสำลีก้านเข้าไปที่รูหูกลับกลายเป็นการผลักเอาขี้หูให้เข้าไปรวมเป็นก้อนใหญ่ในรูหูชั้นในมากขึ้น ๆ ดีไม่ดีจะไปโดนเอาแก้วหูของคุณเลยนะจ๊ะ


แล้วความจริงขี้หูน่ะ มันมีประโยชน์นะเพราะธรรมชาติสร้างมันขึ้นมาเพื่อดักจับสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าไปถึงหูชั้นในง่าย ๆ
วิธีทำความสะอาดหู จงเข้าใจซะใหม่ การใช้สำลีก้านเป็นการกระทำที่ผิด!!

สิ่งที่ร่างกายจะทำคือ ผลักดันขี้หูที่เป็นส่วนเกินออกมาที่หูชั้นนอกเอง หน้าที่เราก็แค่เช็ดมันออกบริเวณภายนอก
วิธีทำความสะอาดหู จงเข้าใจซะใหม่ การใช้สำลีก้านเป็นการกระทำที่ผิด!!





 ดังนั้น ที่เข้าใจว่าขี้หูทำให้รูหูตัน หูเลยตึงไม่ได้ยิน เกิดจากพฤติกรรมการใช้สำลีก้านดันขี้หูเข้าไปเอง ไม่ได้เกิดจากการสะสมหรอกนะ ร่างกายมันขับออกเองได้ 
วิธีทำความสะอาดหู จงเข้าใจซะใหม่ การใช้สำลีก้านเป็นการกระทำที่ผิด!!

   วิธีทำความสะอาดที่ถูกต้องคือ ใช้น้ำเกลือหยอดหู โดยผสมน้ำเกลือ 1 ช้อนชาในน้ำอุ่นครึ่งแก้ว เอาสำลีก้อนมาจุ่มแล้วก็นำไปหยดใส่หู เอียงอย่างนั้น 3 – 5 นาทีแล้วค่อยเอียงกลับให้น้ำเกลือไหลออก แล้วก็ซับให้แห้ง 
วิธีทำความสะอาดหู จงเข้าใจซะใหม่ การใช้สำลีก้านเป็นการกระทำที่ผิด!!





แต่ถ้าทำความสะอาดแล้วแต่หูยังตัน ๆ ตึง ๆ ก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน รับรองอันนี้ชัวร์ที่สุดนะ..

วิธีทำความสะอาดหู จงเข้าใจซะใหม่ การใช้สำลีก้านเป็นการกระทำที่ผิด!!

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก wittyfeed 






เผยสูตร วิธีต้มไข่เป็ด ให้ไข่แดงอยู่นอกไข่ขาว สุดมหัศจรรย์

เผยสูตร วิธีต้มไข่เป็ด ให้ไข่แดงอยู่นอกไข่ขาว สุดมหัศจรรย์





สวัสดีครับ วันนี้ เรามีสูตรเด็ด ๆ สำหรับ วิธีการต้มไข่ ที่ไม่ธรรมดา เพราะมันคือ การต้มไข่ แบบให้ไข่แดงอยู่ข้างนอกไข่ขาว มันแปลกดี เลยนำมาให้ เพื่อน ๆ ได้ ลองทำดูครับ ไม่ยาก เพียงทำตามขั้นตอน และคำแนะนำ

วัตถุดิบที่ต้องมีในครัว

1.ไข่เป็ดเก่า หรือถ้าใครไม่มีใครเป็ดเก่าก็เอาไข่เป็ดสดๆไปตากแดด1แดด




2.เกลือ

วิธีทำ

1.นำไข่ใส่หม้อ เติมน้ำลงไปในหม้อให้ระดับน้ำไม่ท่วมไข่เป็ดนะคะ นอกจากนั้นก็ใส่เกลือเพื่อที่จะไม่ให้เปลือกไข่แตก
2.แล้วนำไปตั้งไฟปานกลาง ห้ามคนเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นไข่จะสุกทั้งใบ ออกมาไม่เหมือนในรูปภาพนะคะ




3.ใช้เวลา 2 นาทีครึ่ง ให้นับจากน้ำเริ่มเดือดค่ะ พอถถึงเวลาที่กำหนดแล้วให้ปิดไฟ แล้วรีบตักไข่ใส่น้ำเย็นทันที เพื่อไม่ให้ไข่นั้นสุกไปมากกว่านี้ แค่นี้แหละก็ได้ไข่ต้มน่ากินแบบในรูปแล้วล่ะคะ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องใช้ไข่เป็ดเก่าเท่านั้น เรามีคำตอบมาให้ค่ะ คือว่าไข่เป็ดเก่าเนี่ย ไข่แดงจะลอยตัวอยู่ด้านบนทำให้เมื่อต้มเฉพาะไข่ขาวสุกก็ทำให้มีไข่แดงโผล่พ้นออกมาเหมือนดั่งภาพ สวยงามแบบนี้ลองเอาไปทำดูกันนะคะ .






สูตรน้ำหยิน-หยาง ขจัดพิษเน่าเสียในลำไส้ แก้กลิ่นปาก กลิ่นตัว







สูตรน้ำหยิน-หยาง ขจัดพิษเน่าเสียในลำไส้ แก้กลิ่นปาก กลิ่นตัว

ทราบหรือไม่ว่าลำไส้ของคนเรามีความยาวประมาณ 8-10 เมตร และมีรอยหยักมากมาย ถึงแม้ว่าเราจะขับถ่ายออกมาในแต่ละวันก็ตาม

แต่ก็มักมีเศษอาหารตกค้างอยู่ตามซอกรอยหยักของลำไส้อยู่เสมอ แบคทีเรียที่ติดอยู่ในผนังลำไส้จะแห้งเกรอะกรังและหมักหมมกลายเป็นของเสียที่ก่อตัวหนาประมาณ 5-7 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 5-6 กิโลกรัม มีสีดำ ส่งกลิ่นเหม็น และมีสารพิษ กลายเป็นอุจจาระเน่าเสียที่ติดแน่นอยู่ในลำไส้ของเรา





อุจจาระเน่าเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้จะก่อให้เกิดสารพิษขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถูกลำไส้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ลำเลียงไปยังเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย

เริ่มจากทำให้สภาวะในลำไส้ย่ำแย่ลง เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร และนำไปสู่ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ จนในที่สุดก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆตามมา ร่างกายเสื่อมสภาพและถึงแก่ชีวิต



แพทย์แผนจีนโบราณมีสูตรการขับอุจจาระเน่าเสียเรียกว่า "สูตรล้างลำไส้ด้วยน้ำแบบหยินหยาง" วิธีการ คือ

ใช้น้ำ 2 ลิตร ที่ทิ้งไว้ 1 คืน ให้เย็นตามอุณหภูมิห้อง ผสมกับน้ำร้อนที่เพิ่งต้มเดือด 2 ลิตร ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย

เวลาที่ดื่ม ให้ดื่มตอนเช้าช่วงตี 5 ถึง 7 โมงเช้าจะดีที่สุด โดยดื่มน้ำสูตรหยินหยางใส่เกลือนี้ 4-6 แก้ว ภายใน 1 ชั่วโมง และดื่ม 2-3 อึกให้หมดแก้ว เพราะการดื่มน้ำแบบอึกใหญ่ๆจะทำให้น้ำไหลลงสู่ภายในร่างกายอย่างรวดเร็วและเข้าถึงลำไส้โดยตรง สามารถชำระล้างอุจจาระที่เน่าเสียภายในลำไส้ได้





เมื่อดื่มน้ำสูตรนี้เข้าไปแล้ว ให้ยืนตัวตรงเป็นธรรมชาติ แล้วใช้เข่าเป็นจุดศูนย์กลางขยับร่างกายขึ้นลงเร็วๆเพื่อเร่งการขับอุจจาระออกจากลำไส้ใหญ่โดยเร็ว

ทำอย่างนี้ติดต่อกัน 3 วัน ก็จะสามารถขับอุจจาระเน่าเสียที่ตกค้างในลำไส้ได้หมด แล้วใช้วิธีนี้ขับของเสียต่อไปเป็นประจำเดือนละ 1 ครั้ง

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgyUQO24cBX5CY5CrD8xk7QmEr_TXvymgZ5IDtgeSKUke9H9mDZWHA1DENOUCx4diTONUTu5CL0Q3KQ-Jr_N3rnJzyl1ErqecY7b_SgjxBomDLYROgLKlAQwxD1wE5x7isvem2wcflme2Y/s640/

นอกจากพุงของคุณจะเล็กลง เอวลด พวกสิวและริ้วรอยจุดด่างดำตามใบหน้าจะดีขึ้น อาการมีกลิ่นปากและกลิ่นตัวจะหายไปด้วย เพราะคุณได้ขับของเสียที่ตกค้างในร่างกายออกไป แต่ที่สำคัญก็คือ ต้องทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องถึงจะได้ผล






บทความจาก...liekr

วิธีขอขมาพ่อแม่ ใครที่ยังมีโอกาสอยู่ รีบทำตอนนี้ดีกว่าไปเคาะโลง






วิธีขอขมาพ่อแม่ ใครที่ยังมีโอกาสอยู่ รีบทำตอนนี้ดีกว่าไปเคาะโลง Photo By pinterest.com

ใครที่ยังไม่เคยทำและยังมีโอกาสอยู่ รีบทำตอนนี้ดีกว่าไป เคาะโลง อย่าอายที่จะทำดี!!

การขอขมาพ่อแม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตทำได้ทุกเทศกาล ใครที่อยากขอขมาในสิ่งที่ทำไม่ดีกับพ่อ-แม่ แต่ไม่รู้วิธีขอขมาพ่อแม่ สิ่งที่ควรเตรียมก่อนขอขมาพ่อแม่ ลองมาดู วิธีขอขมาพ่อแม่กันเลย





สำหรับการขอขมาพ่อแม่ เป็นสิ่งที่ลูก ๆ ทุกคนควรทำ เพราะใน 1 ปีที่ผ่านมา เราไม่อาจรู้ได้ว่า มีสิ่งใดบ้างที่เราทำลงไป และเป็นเหตุให้พ่อแม่ไม่พอใจ ไม่สบายใจบ้าง ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม และการขอขมาพ่อแม่ ยังเป็นแสดงออกถึงความสำนึกในบุญคุณของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามาอีกด้วย ซึ่งการขอขมาพ่อแม่สามารถทำได้ทุกวัน และทุกเทศกาล

ดังนั้นหากใครที่อยากขอขมาในสิ่งที่ทำไม่ดีกับพ่อ-แม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัว ลองมาดู วิธีขอขมาพ่อแม่ และบทสวดขอขมากรรม ที่เรานำมาฝากกันค่ะ



วิธีการขอขมากรรมกับบิดามารดาอย่างถูกวิธี

สิ่งที่ควรเตรียมในการขอขมาพ่อแม่

1. พานธูปเทียนแพ และพวงมาลัย ที่มีดอกมะลิ ในพวงมาลัย 1 พวง

2. ซองใส่ปัจจัยให้พ่อแม่เ ถือเป็นการซื้อชีวิตใหม่จากบุพการี

3. ชุดใหม่ให้พ่อแม่ นิยมเป็นชุดนอน และอาหารที่ท่านโปรด

4. กะลังมังใบใหม่ใส่น้ำอุ่น น้ำลอยดอกมะลิ หรืออาจจะเป็นน้ำใส่น้ำอบให้หอม ๆ

5. ผ้าเช็ดมือ เช็ดเท้าผืนใหม่

6. ผ้าขาวดิบ





7. ถาดใส่ของ (วางทับด้วยผ้าขาวดิบ)

8. สถานที่ทำพิธีขอขมา ควรเป็นกลางแจ้ง

หมายเหตุ : หากไม่มี หรือไม่สามารถ เตรียมตามความพร้อมทั้งหลายเหล่านี้ได้ ท่านสามาถกระทำเพียงน้อมจิตตั้ง นโมฯ ทำการกล่าวคำสมาลาโทษได้เลย

วิธีขอขมาพ่อแม่

ขั้นตอนในการขอขมาพ่อแม่

1. ก่อนทำพิธีขอขมาพ่อแม่ ให้อธิษฐานจิตบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ดังนี้

"องค์พระพุทธเจ้า ลูกชื่อ................................... วันนี้ลูกตั้งใจจะขอขมา ขอโอสิกรรมจากคุณพ่อคุณ แม่

ขอองค์พระพุทธจงบันดาลให้ลูกทำสิ่งนี้สำเร็จเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ด้วยเทอญ

แม่ซื้อ เทพยดาทั้งหลาย เจ้าที่เจ้าทาง พระแม่ทรณี พระแม่คง พระแม่พระพาย พระแม่พระเพลิง

วันนี้ เวลานี้ ลูกชื่อ...............................ได้ตั้งใจที่จะทำพิธีขอขมา ขออโหสิกรรมจากคุณพ่อ คุณแม่ ขอจงเป็นพยานให้ลูกด้วยเทอญ"

2. ให้พ่อกับแม่นั่งบนเก้าอี้หรือโซฟา ขณะที่เรานั่งกับพื้น พร้อมกราบท่าน 3 ครั้ง

3. ให้ยกเท้าของท่านมาล้างในกะละมังน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ โดยขณะที่ล้างเท้าให้ท่านอยู่นั้น ก็กล่าว ขอขมากรรมในสิ่งที่เคยล่วงเกินท่าน ทั้งในอดีตที่ผ่านมาและในอนาคต ทั้งกายก็ดี วาจาก็ดี ใจก็ดี หรือในสิ่งที่ทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ ลูกกราบขออโหสิกรรมในสิ่งเหล่านั้นด้วย

4. หลังจากที่เราล้างเท้าท่านไป พูดไป จนเสร็จ ก็ให้นำเท้าของท่านมาวางบนขาเรา ซึ่งมีผ้าเช็ดเท้ารองอยู่ หลังจากนั้น ก็ให้เช็ดเท้าท่านให้แห้ง

5. เมื่อเช็ดเท้าของท่านแห้งดีแล้ว ก็ให้นำเท้าของท่านมาวางไว้บนขาเราก่อน และอธิฐานจิตพร้อมพูดบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ อีกครั้งว่า

"พระแม่ธรณีเจ้าขา พระแม่คงคาเจ้าขา พระแม่พระพายเจ้าขา พระแม่พระเพลิงเจ้าขา

ลูกมาขอกราบขมาลาโทษ ขอเป็นทิพยญาณ นำความดีและกุศลผลบุญที่ลูกทำในครั้งนี้

ไปบอกปู่ยมราช และนายนิติยบาลให้ด้วย ให้ช่วยจดบันทึกคุณงามความดีครั้งนี้ ที่ผ่านมา

ลูกจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ลูกขอรับใช้กรรม แต่หลังจากนี้ไป ลูกกราบขอชีวิตใหม่จากบุพการี"

6. จากนั้นให้เราก้มหมอบลง และนำเท้าท่านมาวางบนหัวเรา

7. หลังจากนั้น ก็นำพานธูปเทียนแพมามอบให้กับกับท่าน พร้อมพูดว่า

"พ่อคะ/แม่คะ ลูกขอขมา ขออโหสิกรรม ขอชีวิตใหม่ที่ดีให้ลูกด้วยนะคะ (ท่านก็จะพูดให้ศีลให้พร ให้ชีวิตใหม่กับเรา)"

8. สุดท้าย ให้อธิษฐานจิตอีกครั้งถึงพระพุทธเจ้า พร้อมกล่าวว่า

"ลูกชื่อ.............................ขออนุโมทนาบุญ จากพระพุทธเจ้า ให้สำเร็จบุญนี้ให้ลูกด้วย

ลูกขอนำกุศลบุญส่วนหนึ่ง อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวร ที่ติดตามลูกมาแต่อดีตชาติจนปัจจุบัน ให้รับกุศลของลูก ณ บัดนี้ เดี๋ยวนี้........

(เราพูดเองต่อ ขานเอง เออเอง) รับเลยจ๊ะ รับแล้วใช่ไหมจ๊ะ สาธุ สาธุ สาธุ"

คำกล่าว ขอขมาพ่อแม่

นอกจากคำกล่าวขอขมาข้างต้น ยังมีอีกหนึ่งคำกล่าวที่สามารถใช้ในพิธีขอขมาได้เช่นกัน คือ

"กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส ที่ข้าพเจ้า (ชื่อ-นามสกุล) ประมาทพลาดพลั้งทำผิดมาในชาตินี้ ตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบัน (หากนึกเรื่องได้ เช่น เคยด่าว่าพ่อแม่ เคยขัดใจท่าน เคยเถียงท่าน ควรบอกให้หมด) หนูสำนึกแล้ว ในกรรมนั้น ขอให้พ่อและแม่ อโหสิกรรมให้กับลูกในทุก ๆ เรื่อง"

หมายเหตุ :

กรณีที่คุณพ่อ เสียชีวิตไปแล้ว หรือมีเหตุที่ทำให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

- หลังจากที่ล้างเท้าคุณแม่เสร็จแล้วบอก ขอให้คุณแม่เป็นตัวแทนคุณพ่อ พร้อมขอให้ช่วยยกโทษ และอโหสิกรรมให้แทนคุณพ่อด้วย หลังจากนั้น ให้นำพวกมาลัยกับซองเงิน มาให้คุณแม่แล้ว จึงกราบเท้าคุณแม่แทนคุณพ่อ เพิ่มอีก 3 ครั้ง

กรณีที่คุณแม่ เสียชีวิตไปแล้ว หรือมีเหตุที่ทำให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

- หลังจากที่ล้างเท้าคุณพ่อเสร็จแล้วบอก ขอให้คุณพ่อเป็นตัวแทนคุณแม่ พร้อมขอให้ช่วยยกโทษ และอโหสิกรรมให้แทนคุณแม่ด้วย หลังจากนั้น ให้นำพวกมาลัยกับซองเงิน มาให้คุณพ่อแล้ว จึงกราบเท้าคุณพ่อแทนคุณแม่ เพิ่มอีก 3 ครั้ง





กรณีที่คุณพ่อ คุณแม่ เสียชีวิตไปแล้ว หรือมีเหตุที่ทำให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

- สำหรับกรณีนี้ ขอให้คุณพ่อหรือคุณแม่ของแฟนเป็นตัวแทนในการขอขมา แต่ถ้าไม่มีแฟน ก็เปลี่ยนเป็นคุณปู่ย่า ตายาย แทน แต่ถ้าไม่อีก ก็ให้ใช้พ่อแม่บุญธรรมแทน จะใช้พ่อบุญธรรมหรือแม่บุญธรรมเพียงคนเดียวแทนทั้งสองฝ่ายก็ได้ ถ้าไม่มีพ่อแม่บุญธรรม ให้หาครูบาอาจารย์ที่เราเคารพรักจริง ๆ แทนก็ได้ พร้อมทำตามขั้นตอนเหมือนที่ขอขมากับคุณพ่อคุณแม่ทุกอย่าง

อย่างไรก็ดี ขอให้เราพึงระลึกไว้เสมอว่า พิธีขอขมากรรมต่อพ่อแม่ เป็นเพียงการขอขมาให้ความผิดที่เราได้เคยกระทำต่อท่านเท่านั้น ดังนั้น หากต้องการตอบแทนท่านจริง ๆ ขอเพียงเราปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดี กตัญญูต่อท่าน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในความรู้สึกของพ่อแม่แล้ว




บทความจาก...... facebook พระอธิการ นพดล กันตสีโล วัดหนองรั้ว

สังขยาฟักทอง สูตรเพื่อสุขภาพ ห่างไกลโรค







สังขยาฟักทอง สูตรเพื่อสุขภาพ ห่างไกลโรค Photo By nimman.ca

มีผู้อ่านเรียกร้องอยากให้คนสวยทำ “สังขยาฟักทอง” ซึ่งจำเป็นต้องใส่ไข่เป็นส่วนผสม แต่แน่นอนว่า ยังเป็นขนมสุขภาพ เพราะใช้นมถั่วเหลืองแทนกะทิ เพิ่มความหอมด้วยน้ำตาลโตนดแท้แต่ใช้ปริมาณไม่มากนะคะ และใส่ลอนตาลลงไปด้วย ทำให้สังขยาฟักทองอร่อยยิ่งขึ้น





ขอย้ำนะคะ กินแต่พอดีและนานๆครั้ง เพื่อสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคค่ะ

ส่วนผสม

ฟักทองผลเล็ก 1 ผล
ไข่ไก่ 4 ฟอง
นมถั่วเหลือง 1 ถ้วย
น้ำตาลโตนด ¼ ถ้วย


เกลือ ¼ ช้อนชา
ใบเตย 4-5 ใบ
ลอนตาลหั่นเป็นชิ้นเล็ก ½ ถ้วย

วิธีทำ

1.เจาะรูเป็นช่องสี่เหลี่ยมบริเวณขั้วผลฟักทอง คว้านเมล็ดออกให้หมด ล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้เนื้อแห้ง





2.ขยำไข่ไก่ นมถั่วเหลือง น้ำตาลโตนด เกลือ และใบเตยเข้าด้วยให้ จนน้ำตาลละลาย ใส่ลอนตาลลงไป คนให้เข้ากัน เทส่วนผสมที่ได้ลงในผลฟักทอง จนเกือบเต็มผล วางซึ้งลงบนเตา ต้มน้ำให้เดือดจัด กระทั่งมีไอระเหยลอยอวลอยู่ในซึ้ง ปิดฝา วางฟักทองลงในซึ้ง นึ่งประมาณ 20-30 นาที จนกระทั่งสังขยาสุก

Tips

1.วิธีสักเกตว่า สังขยาว่าสุกหรือไม่ ให้จิ้มส้อมลงในสังขยา หากสุก จะไม่มีคราบไข่ขาวติดอยู่ที่ส้อม

2.สามารถใส่ฟักทองขูดแทนลอนตาลก็ได้










บทความจาก...... cheewajit.com

เผย “วิบากกรรม” ของคนเกิดวันต่างๆ และวิธีแก้วิบากกรรม







ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า กรรมนั้นไม่สามารถลบล้างไปได้ ไม่ว่า กรรมดี หรือกรรมชั่ว แต่เราสามารถให้กรรมดี ส่งผลเร็วและมาก่อน ในขณะที่ ให้กรรมชั่วส่งผลช้า หรือแผ่วกำลังเบาบางลง แต่ไม่ได้หมายความว่า ถูกลบหายไป ดังนั้นต้องเข้าใจให้ถูกต้อง เนื้อหาการแก้กรรม จึงเป็นแนวทาง ในแบบ พิธีกรรม การทำเข้าแบบที่ควรทำ ด้วย อาการน้อมจิตให้อ่อนโยนลง ขอเพียงจิตอ่อนโยน การขอขมาใด ๆ แก่ใครย่อมเกิดผล หากมีความลังเลสงสัย ก็อย่าทำให้เสียของ เพราะจิตไม่อ่อนโยนเพียงพอ ศรัทธาต้องมาก่อน ผลการกระทำจึงจะเต็ม…

8f71889da

คนเกิดวันอาทิตย์
วิบากกรรมของคนเกิดวันอาทิตย์…และการแก้วิบากกรรม.!!!!
วิบาก กรรมที่ติดตัวอยู่เสมอนั้น มักจะทำบุญคนไม่ค่อยขึ้น ในช่วงวัยเด็กอาจจะเกิดความลำบาก และเมื่อโตขึ้นนั้นก็ยังเจอปัญหาในเรื่องเกี่ยวข้องกับบริวารอีก จึงทำให้เหตุที่มานั้นเกี่ยวข้องกับการเงินการทองเสียอีกด้วย เป็นคนชอบเชื่อคนง่าย และไว้ใจคน ทั้งยังเป็นคนกตัญญูกับผู้ที่ให้การช่วยเหลือ ในเกณฑ์ดวงท่าน เคยสังเกตไหมว่าจะต้องเจอปัญหากับเรื่องคนอื่นอยู่เสมอ ท่านช่วยใครไปก็ตาม คนนั้นมักจะต้องสร้างปัญหาให้ท่านเสมอ เวลาช่วยแล้วเขาจะมองไม่เห็นความดี ….




การแก้ไขวิบากกรรม ของท่านที่เกิดในวันอาทิตย์
1 พยายามทำบุญอุทิศส่วนกุศล ทุกวันเกิด ให้ผู้ที่เคยล่วงเกินกันมาตั้งแต่อดีตชาติปัจจุบันชาติ
ให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
2. หากมีคนที่ล่วงเกินยังมีชีวิตอยู่ หาเงินไปคืนและขออโหสิกรรมซะเพื่อชีวิตเราจะได้ดีขึ้นต่อไป
3. ตักบาตร วันโกนอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรให้ได้รับกุศล และเปิดทางให้ชีวิตดีขึ้น
4. ทำกุศลกับผู้มีพระคุณและช่วยคนไว้ เพื่อยามทุกข์ยากจะได้มีคนมาเหลียวแล และดูแลเราบ้าง
5. สวดมนต์ทุกวันเกิด และแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน




**********************************

เผยเทคนิคง่ายๆ ปลูกกล้วยน้ำว้าให้ได้เงินแสน มีขายตลอดปี!!



วันนี้ Blogger Farmfriend นั่งท่องอินเตอร์เน็ตไปเรื่อย แล้วไปสะดุดตากับข้อมูลอย่างหนึ่ง ซึ่งน่าเหลือเชื่อมาก มันคือเรื่องของกล้วย กล้วยน้ำว้า ที่ใครๆเห็นอาจจะมองว่าธรรมดา แต่หารู้ไหมว่า กล้วยมีประโยชน์มากมาย ใช้ได้เกือบทุกส่วน และเหมาะที่จะปลูกมาก





      เพราะทุกวันนี้ราคากล้วยพุ่งสูงมาก เมื่อเช้าไปเดินแถวๆตลาดขายส่ง หวีละ 20 บาท ไปดูตลาดขายปลีก แพงถึงหวีละ 30 บาทเลยทีเดียว กล้วยน้ำว้ามีสารอาหารหลายชนิด มีวิตามินเอ ,บี 1 ,บี 2 ,ซี และไนอะซิน (บี 6) ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกาย นอกจากนี้กล้วยน้ำว้ายังมีโปรตีนที่มีกรดอะมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก ถึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตอนเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ถึงให้เรากินกล้วยบด เพราะอุดมด้วยสารอาหาร และวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายเรานั่นเอง กล้วยน้ำว้า หนึ่งผล สามารถให้พลังงานได้ ประมาณ ๑๐๐ แคลอรี่ มีน้ำตาลธรรมชาติ อยู่ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุคโทสและ กลูโครส มีเส้นใยและกากอาหาร ทำให้ขับถ่ายง่าย เห็นกล้วยมีประโยชน์มากมาย และราคาดีแบบนี้ Blogger Farmfriend  เลยจะขอนำเสนอวิธีการปลูกกล้วยน้ำว้าให้ออกลูกตลอดปี เพื่อที่จะมีกล้วยไว้ทาน และจำหน่าย โดยไม่ต้องโดนพ่อค้าคนกลางกดราคาดั่งเช่นที่เกษตรกรทั่วไปประสบปัญหากันอยู่เหมือนทุกวันนี้





ปลูกกล้วย2

วิธีการปลูกกล้วยน้ำว้าให้ออกลูกได้ตลอดปี

    1.ทำการเลือกต้นพันธุ์โดยในที่นี้ขอเสนอให้เลือกต้นพันธุ์จากการเพาะเนื้อเยื่อ จะทำให้กล้วยปลอดโรค และออกลูกได้พร้อมกัน

    2.ทำการเตรียมดิน โดยการไถดะด้วยผานสามตากดินประมาณหนึ่งเดือน และไถแปรด้วยผานห้าอีกทีตากดินทิ้งไว้ประมาณหนึ่งเดือน

    3.กำหนดระยะและขนาดหลุมปลูก โดยระยะที่เหมาะสมคือ 4×4 เมตร และควรขุดหลุม 50x50x50 เซ็นติเมตร เพราะรัศมีของรากกล้วยจะหากินไม่เกิน 50 เซ็นติเมตร  การขุดหลุมขนาดนี้จะทำให้รากกล้วยหากินได้ไกลขึ้น และความลึกของหลุมจะแก้ปัญหาการขึ้นโคนหรือโคนลอย โดยการปลูกครั้งหนึ่งสามารถเก็บผลผลิตได้ 4-5 ปีเลยทีเดียว ถ้าขุดหลุมขนาดเล็กและตื้นกว่านี้ จะให้ผลผลิตแค่ปีสองปีก็ต้องรื้อปลูกใหม่แล้ว

    4.  ใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกผสมดินประมาณหลุมละ 2 กิโลกรัม รองหนาขึ้นมาประมาณ 30 เซ็นติเมตร แล้วจึงปลูกต้นกล้วยและกลบบริเวณโคนต้นให้แน่น ทำแอ่งดินรอบต้นเพื่อเก็บน้ำรักษาความชื้นของดิน และควรรองก้นหลุมด้วยฟูราดานป้องกันหนอนกอกล้วยประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อหลุม





     5.ปลูกเสร็จให้น้ำตามทันทีให้ชุ่มชื้นพอเพียง ไม่เช่นนั้นต้นจะเหี่ยวเฉา ใบแห้งและยุบตัว บางต้นตาย บางต้นแตกต้นใหม่ขึ้นแทนทำให้อายุต้นไม่สม่ำเสมอกัน

     6. ในระยะเดือนแรกต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ และดินต้องชุ่มชื้นเพียงพอ เป็นเดือนที่ต้องเอาใจใส่อย่างมาก หากเป็นการให้น้ำแบบฝอยหรือมินิสปริงเกลอร์ จะทำให้ต้นตั้งตัวได้เร็ว สามารถสร้างใบและลำต้นใหม่ได้ดี โอกาสรอดสูงกว่าการลากสายยางรดน้ำ และเริ่มให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 100-150 กรัม ต่อต้น หลังปลูกได้ 1 เดือน และเดือนที่ 2 ส่วนเดือนที่ 3 ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแทน

     7.เดือนที่ 2 และ 3 ต้นกล้วยจะมีต้นและใบใหม่ทั้งหมด ปัญหาคือหญ้าขึ้นคลุมต้น ต้องถากหญ้าบริเวณโคนต้นออกให้หมด

     8. เดือนที่ 4 การเจริญเติบโตเร็วมาก ทั้งความสูงและรอบวงต้นใกล้เคียงปลูกจากหน่อพันธุ์ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดต้นปลูกเริ่มแรก ถ้าสูง 15 เซนติเมตร ขึ้นไป จะโตทันกัน ถือว่าเดือนนี้เป็นเดือนที่ต้นรอดตายทั้งหมด การดูแลทำเช่นเดียวกับการปลูกด้วยหน่อ โดยให้ปุ๋ย 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 100-150 กรัม ต่อต้นในเดือนที่ 4 และ 5 ส่วนเดือนที่ 6 ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแทนและงดใส่ปุ๋ยจนกว่าจะแทงปลี ถึงจะใส่ปุ๋ยเคมีอีกครั้ง จนกระทั่งหลังเก็บเกี่ยวถึงจะเริ่มให้ปุ๋ยในรอบใหม่

     9.ในช่วง 1-6 เดือนหลังปลูกให้ปาดหน่อที่โผล่ออกมาทิ้งไปพอหลังจากอายุ 6 เดือน ให้ไว้หน่อที่ 1 พอหน่อที่ 1 อายุ 3 เดือน ให้ไว้หน่อที่ 2 หลังจากนั้นทุกๆ 3 เดือน ให้ไว้หน่อที่ 3 และ 4, 5 ตาม โดยหน่อที่ขึ้นมาในช่วงที่ไม่ได้กำหนดให้ปาดทิ้งทั้งหมด ปรากฏว่า เมื่อจะไว้หน่อที่ 5 ต้นแม่ก็สามารถเก็บเกี่ยวเครือกล้วยได้แล้ว ฉะนั้นจะกลายว่ากอนั้นมีต้นกล้วย 4 ต้น ที่อายุห่างกัน 3 เดือน โดยมีหน่อที่ 1 ที่อายุห่าง 6 เดือน ดังนั้น เมื่อใช้ระบบนี้ต่อไปหลายๆ ปีจะทำให้กล้วยน้ำว้าในแปลงมีอายุห่าง 3 เดือน”

ปลูกกล้วย3

     “สาเหตุที่ไว้หน่อทุก 3 เดือน มีเหตุผลว่า ด้วยการออกผลผลิตของกล้วยน้ำว้าในแปลงนั้นจะออกไม่
พร้อมกัน ถึงแม้ไว้ใกล้เคียงกัน จะมีการกระจายตัวในการเก็บเกี่ยวประมาณ 3 เดือน โดยจากข้อมูลที่ศึกษาจากการปลูกกล้วยน้ำว้าด้วยหน่อพบว่า จะมีช่วงแรกที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ ช่วงกลางๆ จะเก็บได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และช่วงปลายเก็บได้ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ “ทีนี้ถ้าค่อยๆ ปลูกหรือไว้หน่อไป กล้วยที่ออกผลในช่วงปลาย 25 เปอร์เซ็นต์ จะไปรวมกับ 25 เปอร์เซ็นต์ของช่วงแรกในอีกแปลงหนึ่ง จะทำให้ได้ผลผลิตรวมเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นทั้งปีด้วยวิธีการนี้ ทำให้สามารถมีผลผลิตกล้วยน้ำว้าจำหน่ายให้กับพ่อค้าได้ตลอดทั้งปีและสามารถต่อรองราคากับพ่อค้าได้ โดยไม่ต้องถูกกดราคาเพราะจำเป็นต้องตัดขายทั้งแปลง”

ปลูกกล้วย4

10.เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 9 กล้วยจะเริ่มแทงปลี การแทงปลีหรือตกเครือจะเร็วหรือช้ากว่าหน่อพันธุ์ ขึ้นอยู่กับขนาดลำต้นปลูกเริ่มแรกและการดูแลรักษา หากต้นพันธุ์ที่มีขนาดความสูง 15 เซนติเมตรขึ้นไป หรือมีเส้นรอบวงต้นมากกว่า 4 เซนติเมตร การตกเครือใกล้เคียงกับหน่อพันธุ์ ขนาด 1 เมตร หากต้นมีขนาดใหญ่กว่านี้ การตกเครือจะเร็วกว่าหน่อพันธุ์ และหากเล็กกว่านี้การตกเครือจะช้ากว่าหน่อพันธุ์ อายุเครือกล้วยจากการแทงปลีจนกระทั่งเก็บเกี่ยวมีอายุประมาณ 4 เดือน เท่ากับหน่อพันธุ์กล้วยน้ำว้าทั่วไป

ปลูกกล้วย5





ปลูกกล้วย6

เพียงแค่ปฏิบัติตามขั้นตอนเพียงเท่านี้เราก็จะมีกล้วยน้ำว้าที่ลูกใหญ่และดกถึงเครือละไม่ต่ำกว่าสิบหวีไว้บริโภคและจำหน่ายโดยไม่ต้องง้อพ่อค้าคนกลางแล้วหล่ะครับ…

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : blogspot.com